ชื่อเรื่อง การใช้เกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทาง วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียน ชุมชนบ้านป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาลำพูน เขต 2
บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่อง การใช้เกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยมีวัตถุประสงค์การศึกษา 3 ประการ คือ 1) เพื่อสร้างและใช้เกมวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการใช้เกมวิทยาศาสตร์ และ 3) เพื่อประเมินพฤติกรรมของนักเรียนที่มีต่อการใช้เกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนชุมชนบ้านป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต 2 จำนวน 25 คน โดยใช้เวลาเรียนในชั่วโมงสอนซ่อมเสริม วันละ1 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ เกมวิทยาศาสตร์ จำนวน 18 ชุด แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ และแบบประเมินพฤติกรรมทางความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน ซึ่งเครื่องมือทั้งหมดได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและได้รับความเห็นชอบจากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน โดยร้อยละ 80 เห็นว่า มีความเหมาะสมเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาและโครงสร้าง ซึ่งแบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.812 โดยผู้ศึกษาทำการเก็บรวบรวมข้อมูลและนำคะแนนความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ก่อนและหลังการปฏิบัติกรรมของนักเรียน นำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบคะแนนความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนก่อนและหลังการใช้เกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นค่าร้อยละของพฤติกรรมที่แสดงออกของนักเรียนในระหว่างการปฏิบัติกิจกรรมโดยการใช้เกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผลการศึกษาพบว่า
1. ได้เกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 18 ชุด ดังนี้คือ ชุดที่ 1 เอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่ 1) จับผิดภาพ 2) ภาพสัญลักษณ์ 3) ประสาทสัมผัส ชุดที่ 2 ความสัมพันธ์เชื่อมโยง ได้แก่ 4) ครอบครัวสัตว์โลก 5) โดมิโนสารอาหาร 6) นักสำรวจน้อย ชุดที่ 3 การแก้ปัญหา ได้แก่ 7) จัตุรัสแสนกล 8) ปริศนาซ่อนภาพ 9) ปริศนาหาเหตุผล ชุดที่ 4 การทำนายและสมมติอย่างมีเหตุผล ได้แก่ 10) มิติสัมพันธ์ 11) นักสื่อสาร 12 ) นักจินตนาการ 13) นักพยากรณ์น้อย ชุดที่ 5 จินตนาการอย่างสร้างสรรค์ได้แก่ 14) จุดมหัศจรรย์ 15) สนุกกับตัวเลข 16) กระดาษเจ็ดชิ้น 17) ยอดนักประดิษฐ์ และ 18) นักเขียนรุ่นเยาว์ ซึ่งในการสร้างชุดเกมวิทยาศาสตร์ดังกล่าวนั้น ผู้ศึกษาได้ดำเนินการศึกษาหลักสูตรเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้กำหนดไว้ในวิสัยทัศน์ของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นให้ผู้เรียนทุกคนจะได้รับการส่งเสริมให้พัฒนากระบวนการคิด ความสามารถในการเรียนรู้ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ โดยถือว่ามีความสำคัญควบคู่การเรียนในสถานศึกษา และเป้าหมายสำคัญในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและจัดการ ทักษะใน
การสื่อสารและความสามารถในการตัดสินใจ จากแนวคิดดังกล่าวจึงนำไปสู่การสร้างเกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และวิเคราะห์การออกแบบเกมวิทยาศาสตร์ให้สอดคล้องกับโครงสร้างเนื้อหาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ระดับช่วงชั้นที่ 2 (ป.4-6) และองค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ทั้ง 4 ด้าน คือ ความคิดคล่อง ความคิดยืดหยุ่น ความคิดริเริ่มและความละเอียดลออ โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการสืบเสาะหาความรู้ จากนั้นผู้ศึกษาได้นำชุดเกมวิทยาศาสตร์ดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน (รายชื่อในภาคผนวก ก) ให้คำแนะนำเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญร้อยละ 80 มีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า ชุดเกมวิทยาศาสตร์ที่สร้างขึ้นมีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาและโครงสร้าง เหมาะสมสอดคล้องกับการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2. ผลการศึกษาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ พบว่า หลังจากการใช้เกมวิทยาศาสตร์ นักเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนนความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 4 องค์ประกอบ ได้แก่ ความคิดคล่อง ความคิดยืดหยุ่น ความคิดริเริ่ม และความคิดละเอียดลออ สูงกว่าก่อนการใช้เกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลจากการสังเกตและประเมินพฤติกรรมของนักเรียนทางความคิดสร้างสรรค์ที่แสดงออกในขณะใช้เกมวิทยาศาสตร์ พบว่า พฤติกรรมทางความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนที่แสดงออกในระหว่างการใช้เกมวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถเรียงลำดับพฤติกรรมทางความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนที่แสดงออกจากมากไปน้อย ดังนี้คือ สนุกสนานกับการใช้ความคิด มีสมาธิดีในสิ่งที่ตนเองสนใจ และถ้ามีสิ่งใดสงสัยก็จะถามหรือพยายามคิดหาคำตอบ มีความอยากรู้อยากเห็นและกระตือรือร้น ชอบเสาะแสวงหา สำรวจ ศึกษาค้นคว้าและมีความคิดเป็นของตนเอง สนใจสิ่งต่างๆอย่างกว้างขวาง ชอบซักถามและถามคำถามแปลกๆ ช่างสงสัยเป็นเด็กที่มีความรู้แปลกผิดปกติและมีอารมณ์ขัน มองสิ่งต่างๆ ในแง่มุมที่แปลก ตามลำดับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น